บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 11
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563
อาจารย์ให้ทำอาหารแต่หนูไม่ได้ไปเรียนเพราะไม่สบายค่ะ
ขออนุญาติใช้รูปภาพเพื่อนนะคะ
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 10
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563
อาจารย์ให้นักศึกษาดูคลิปวิดิโอ อ่านสร้างสุข โดยเทคนิคการอ่านหนังสือให้เด็กๆ ฟัง ต้องใช้เทคนิคอะไรบ้าง แล้วอาจารย์ก็ได้มอบหมายงาน
1. ให้นักศึกษาไปค้นคว้าหานิทานที่ห้องสมุดเพื่อนำมาทำสื่อเพื่อพัฒนาลูกรัก
ในการทำนั้นต้องมีประเด็น ตั้งสมมติฐาน ดำเนินการปฏิบัติ
บันทึกการเรียนครั้งที่ 9
วันที่ 27 ตุลาคม 2563
เนื้อหาการเรียนครั้งที่ 9
อาจารย์สนทนาก่อนเข้าบทเรียนและให้จัดกลุ่มละ 4-5 คน แล้วให้นักศึกษาทำกิจกรรม
กิจกรรมที่ 1
วาดจุดเด่นของแหล่งน้ำแต่ละแห่งโดยที่ไม่บอกชื่อของแหล่งน้ำ จากนั้นให้นักศึกษาทายชื่อแหล่งน้ำของแต่ละกลุ่ม
กิจกรรมที่ 2
นำหลอด 25 อัน และเทปใส 1 ม้วนมาสร้างเป็นสไตล์เดอร์ จากนั้นนำดินน้ำมันมากลิ้งแล้วกลุ่มไหนใช้เวลาในการกลิ้งนานที่สุด
กิจกรรมที่ 3
นำกระดาษมาพับครึ่งสองทบแล้วตัดกระดาษเป็นรูปดอกไม้โดยให้นักศึกษาออกแบบเอง
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที 8
วันที่ 6 ตุลาคม 2563
สรุปจากคลิปวีดีโอที่ดู
-อากาศสามรถอยู่ได้ทุกที่
-อากาศจะผ่านไปไม่ได้เพราะดันน้ำมันดันอากาศไว้ ทำให้รู้ว่ามีอากาศอยู่รอบๆตัวเรา
-อากาศไม่มีรูปร่างแต่มีน้ำหนักขึ้นอยู่กับความร้อนความเย็นลูกโปร่ง
-บอลลูนถ้าอยากให้สูงให้เร็วมากเท่าไหร่จะต้องทำให้ความร้อนมีมาก
-อากาศร้อน = เบา
-อากาศเย็น = หนัก
-ฟองสบู่ขึ้นแล้วตกลงมาเพราะตอนเป่าออกจากตัวจะร้อนแต่พออากาศเย็นลงฟองสบู่จะตก
-ลมพัดได้เพราะ บนพื้นโลกลมพักผ้่นตลอดเพราะลมพัดมาไม่เท่ากัน
-กระป๋องนมเจูาะ2ฝั่ง เพื่อให้อากาศดันน้ำออก
-อากาศร้อนแรงดันจะต่ำกว่าอากาศเย็น
-อากาศเคลื่อนที่แรงดันน้อยกว่าอยู่กับที่
บันทึกครั้งที่ 7
วันที่ 22 กันยายน 2563
อาจารย์ให้กระดาษเขียนความสำคัญของวิทยาศาสตร์ในความคิดของเราว่ามีความสำคัญอย่างไร
ความสำคัญของวิทยาศาสตร์
- การดำรงชีวิตประจำวันและในงานอาชีพต่างๆ
- การอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันและการทำงาน
- คนได้พัฒนาความคิดเป็นเหตุเป็นผล และคิดสร้างสรรค์
- นำความรู้ไปใช้อย่างมีเหตุผล
- ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่
บันทึกครั้งที่ 6
วันที่ 15 กันยายน 2563
- การวัดสัดส่วนโดยการพับกระดาษเอสี่ 1 แผ่นได้รับประสบการณ์ เช่น ขนาด การกะขนาด
- สร้างสรรค์ชิ้นงานคณิตศาสตร์บูรณาการกับศิลปะ เช่น การปะติด การแปะฉีก
- ควรทำสื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก และต้องตั้งเกณฑ์การจัดประสบการณ์ให้ชัดเจน
- การบวกเลขควรจัดอยู่ในใาตรฐานสุดท้าย จะใช้สัญญาลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เด็กต้องผ่านขั้นอนุรักษ์
- การเขียนแผนคือการออกแบบชิ้นงาน
- การนำชิ้นงานของเด็กมาใช้ต่อยอด เช่น ให้เด็กเอางานของจนเองออกมาแปะหน้าห้องเพื่อแสดงถึงจำนวนที่เด็กมาโรงเรียนในวันนี้ และควบคู่ไปกับการให้เด็กนับใบงานของเพื่อนๆและของตนเองพร้อมกันเพื่อฝึกฝนให้เด็กได้รู้จักการนับและการจดจำจำนวนไปด้วย วิธีการให้เด็กนับไปพร้อมๆกันคือต้องจัดวางจำนวนกระดาษแต่ละแถวเท่ากันให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น การวางกระดาษแถวละ 5 แผ่น จะทำให้นับง่ายกว่าเดิม (ฐาน 5 ฐาน 10) เป็นการบูรณาการผ่านชีวิตประจำวัน
- การแยกหมวดหมู่ + การนับจำนวน สามารถทำร่วมกันได้ เช่น การกำหนดหมวดหมู่และนำสื่อกลางโยมีเกณฑ์กำหนด เช่น ใช้เกณฑ์การมาเรียน 8: 30 นาฬิกา และหลัง 8 : 30 นาฬิกา
- ยังไม่ต้องสอนลบด้วยสัญญาลักษณ์แต่จะลบด้วยจำนวนให้ลดลง
- ขนาดและพื้นที่กะประมาณด้วยสายตาต้องสอนให้เด็กหาค่าความสัมพันธ์ของสิ่งของ เช่น หาความสัมพันธ์ของขนาดตะกร้ากับจำนวนไข่ในตะกร้าว่ามีกี่ฟ้อง
***** ทริค ***** หยิบของ วางของ ควรหยิบจับจากซ้ายมาขวา
- หาจำนวนมากกว่าน้อยกว่าโดยการนับ 1 ต่อ 1
- การเปรียบเทียบจะมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม 1.มากที่สุด 2.มาก 3.น้อยที่สุด
- การเปรียบเทียบสิ่งของ จุดเริ่มต้นต้องเท่ากัน (สูง ยาว)
- ปฏิทินสามารถนำมาบูรณาการคณิตศาสตร์ได้เยอะ เช่น การบอกวันที่ การนับวัน (จำนวน)
เพลง 1 ปี
1 ปีนั้นมี 12 เดือน
อย่าลืมเลือนจำไว้ให้มั่น
อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์
บันทึกครั้งที่ 5
วันที่ 1 กันยายน 2563
วันนี่้ได้ทำกิจกรรมการวัดหาค่าสิ่งของรอบตัวโดยใช้เครื่องมือที่ไม่ใช่มาตรฐาน โดยวันนี้อาจารย์ให้โปรดกลุ่มพวกเราวัดความยาวของหน้าต่างทั้ง 8 บาน เราใชข้วิธีการต่อแขน ได้ความยาวสทั้งหมด 5 ช่วงแขน
จังหวะเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ เช่น การนับก้าวเดิน เป็นต้น
จำนวนสองจำนวนมีค่าเท่ากัน หรือน้อยกว่า มากกว่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน
บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 4
วันที่ 25 สิงหาคม 2563
รูปแบบการเรียนรู้เด็กปฐมวัย
คุณลักษณะตามวัยของเด็กอายุ 3-5 ปี ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 มีดังนี้
-เด็กอายุ 3 ปี พัฒนาการด้านสติปัญญา เด็กจะสามารถสำรวจสิ่งต่างๆที่เหมือนและต่างกันได้ สามารถบอกชื่อตนเองได้ และเมื่อมีปัญหาจะสามรถขอความช่วยเหลือได้ สามารถสนทนาโต้ตอบด้วยประโยคที่สั้นๆ
-เด็กอายุ 4 ปี พัฒนาการด้านสติปัญญา สามรถจำแนกสิ่งต่างๆด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 บอกชื่อจริงนามสกุลตนเองได้ มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตนเองหลังจากได้รับคำชี้แนะ สนทนาโต้ตอบเป็นเรื่องราวได้
-เด็กอายุ 5 ปี พัฒนาการด้านสติปัญญา สามารถบอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่างได้ บอกชื่อ-นามสกุล อายุของตัวเองได้ พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง สนทนาโต้ตอบเป็นเรื่องราวได้
***คุณลักษณะตามวัยที่กำหนดในหลักสูตร อ้างอิงมาจากพัฒนาการของเด็ก***
- เด็กอายุ 1-2 ปี ใช้ประสามสัมผัสทั้ง 5 มาก จะเรียกว่าอยู่ในช่วงใช้ประสามสัมผัส โดยที่ประสามสัมผัสทั้ง 5 จะส่งไปยังสมอง และสมองจะซึมซับทำให้เกิดเป็นความเคยชินหรือสิ่งที่เคยทำไปแล้ว
- เด็กอายุ 2-4 ปี จะตอบตามที่ตาเห็นยังไม่มีเหตุผลในการตอบ โดยจะจัดประสบการณ์ให้เห็นเป็นภาพหรือใช้สิ่งที่เป็นจริงมาจัดประสบการณ์ (รูปธรรม)
- เด็กอายุ4-7 ปี จะเริ่มพัฒนาเหตุผลได้มากขึ้น จะตอบตามเหตุผลโดยไม่อิงจากสิ่งที่เห็น ช่วงวัยนี้จัดเป็นขั้นอนุรักษ์ การจัดประสบการณ์จะใช้เป็นสัญลักษณ์แทนการใช้ภาพจริง (นามธรรม)
***การเปลี่ยนแปลงที่เป็นลำดับขั้นตอนจะต้องอาศัยอายุ ช่วงวัย โดยจะต้องสัมพันธ์กับสมอง***
***ธรรมชาติของเด็ก หรือความเป็นไปของเด็ก คือ พัฒนาการตามช่วงวัย***
สาระสำคัญทางคณิตศาสตร์
สาระที่ 1 จำนวนใช้บอกจำนวนต่างๆ
สาระนี้ไม่ใช่เพียงแค่จะสอนการบวก ลบ เลข แต่จะสอนเช่น สัญลักษ์ที่ใช้แสดงจำนวน การเปรียบเทียบ เรียงลำดับจากน้อย-มาก การรวมตัวเลขทั้งสองกลุ่ม การแยกจำนวนสิ่งต่างๆออกจากกลุ่ม
เทคนิคการสอนในสาระนี้
*การเรียงลำดับจากน้อย-มากให้เริ่มเรียงจากซ้ายไปขวา เพราะเด็กจะอ่านหนังสือจากซ้ายไปขวา
แต่หากครูต้องการจะวางของให้เด็กดู ให้วางจากขวามือครูไปซ้ายมือครู*
*หากต้องการตั้งเกรณฑ์ในการจัดประสบการ์ให้ตั้งเกรณฑ์เพียงแค่เกรณฑ์เดียวเท่านั้น*
*สามารถใช้เพลงนำมาร้องประกอบการจัดประสบการณืได้ เช่น เพลงแม่ไก่ออกไข่*
บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 3
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563
เด็กปฐมวัย VS วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
พัฒนาการของเด็ก = ความสามารถที่เด็กทำได้ในแต่ละช่วงอายุ และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากในแต่ละขั้นการพัฒนามีการเปลี่ยนแปลงที่แย่ลงในขั้นต่อไปก็จะเกิดผลกระทบตามมา
การจัดประสบการณ์วิทย์-คณิตสำหรับเด็กปฐมวัย จำเป็นต้องใช้การเล่นเป็นสื่อกลาง เช่น การจัดกิจกกรมในรูปแบบการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5 ทั้งในทางอิสระและในทางที่ครูจัดให้โดยจะต้องเน้นให้เด็กเกิดความสุข ความสนุก เพลิดเพลิน เลือกิจกรรมที่สอดคล้องกับช่วงอายุ และพัฒนาการของเด็ก ใช้วิธีการที่จะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ เช่น เรื่องใกล้ตัวและสิ่งที่เด็กสามารถจะมองเห็นได้ (รูปธรรม)